วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การฝึกออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ A-Z

การฝึกออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ A-Z

 
 
การฝึกออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ  ตั้งแต่  A-Z

            ตัว  A  นั้นออกเสียงคล้าย  เอ  ภาษาไทย  แต่จะมีลมออกมาจากลำคอมากกว่าของไทย (ท่าถอนหายใจ)  คือสระในภาษาอังกฤษทุกตัวจะมีลมมาจุกติดอยู่ที่ลำคอก่อนเปล่งเสียง ผิดกับภาษาไทยที่ปล่อยให้เสียงออกมาแบบไม่ต้องมีลมดัน  ลองพูด  alien , agent  ,aids , ape , บางครั้ง A ก็  เสียง อะเช่น   ago , again , alarm
            ตัว B  ออกเสียงคล้าย   ใบไม้  แต่จะบีบปากแน่นกว่า  ภาษาไทยจะใช้ริมฝีปากบนล่างด้านในสัมผัสกันเบา ๆ ก่อนเปล่งเสียง  แต่ของฝรั่งจะบีบแรง ๆ  พอจะเปล่งเสียงต้องใช้ลมดันให้ระเบิดออกมา  ลองพูด  bomb , baby , but , bubble , bit
            ตัว C ออกเสียงได้  2  เสียง ก็ได้    ก็ได้  แต่ไม่เหมือนไทย  เราต้องใช้ท่าฉีกยิ้มจนลมผ่านด้านข้างแก้มกับฟัน แล้วจึงออกเสียง เช่น cell , cycle , civic หรือ   เช่น   cat , car , comb
            ตัว D ใช้ท่าหมากฝรั่งติดเพดานปากแล้วพูด    แต่ให้ลิ้นดันเพดานแรง ๆ พร้อมห่อปากเล็กน้อย  โปรดสังเกตว่า   ในภาษาไทยใช้แค่ปลายลิ้นแตะเพดานบนเบา ๆ  เท่านั้น  ไม่เหมือนกันใครทำไม่ได้  ให้สังเกตว่ากำลังใช้ปลายลิ้นหรือด้านบนของลิ้นฃ่วงสุดปลายดันเพดาน  ถ้าทำอย่างแรกเสียงจะไม่ค่อยเล็ดลอดออกมา  ถ้าทำอย่างหลังเป็นวิธีที่ถูก  เสียง จะออกมาชัดเจน  เช่น  dog , dear , dad , dime , dump
            ตัว  E ใช้วิธีฉีกยิ้มและพ่นลมออกมาจากลำคอพร้อมเปล่งเสียง อี  เช่น  eel , evening (อีฟ-นิ่ง  ไม่ใช่ อีฟ-เวน-นิ่ง) หรือ  เอะ  เช่น  Evans (เอฟ-วึ่นส์ ไม่ใช่  อี-วานส์)  elephant  (เอล-ฟึ่น  ไม่ใช่  อี-เล-เฟ่น)
            ตัว  F ใช้ฟันบนจิกลงบนริมฝีผากล้างด้านใน  แล้วพ่นลมผ่านไรฟันออกมาก่อนเสียงสระ  เช่น  fat  เฟอะ-แอ็ท  fun  เฟอะ-อัน  ผิดกับภาษาไทยที่เปล่งออกมาพร้อมกันทั้งพยัญชนะต้น สระ ตัวสะกด  ลองออกเสียง free , film , fame , foot , fume
            ตัว  G  คือ   แต่ยื่นปากมากกว่าภาษาไทยหน่อยหนึ่ง  เช่น  George , gentle , gym  บางครั้งก็ออกเสียงเป็น   ก็ให้ยื่นปากก่อนพูด   เป็นใช้ได้ เช่น  girl , gold , grab
            ตัว   H  (โปรดทราบ  หนึ่งชื่อ  เอช นะเจ้าคะ ไม่ใช่  เฮ็ด  คุณครูไทยชอบสอบให้อ่านว่า  เฮ็ด  ไม่รู้ให้ไปเฮ็ดหยัง)  เวลาเรียกตัว  H ให้พูดว่า  เอช  แล้วจบเสียงด้วยท่ายื่นเผยอปากค้างไว้  ระวังริมฝีปากต้องเผยอเกร็งไว้  มิฉะนั้นเสียงจะเพี้ยนเวลาออกเสียงในคำจะคล้าย   แต่ต้องมีการพ่นลมออกมาจากลำคอเหมือนถอนหายใจ  ลองดู  hot , hat , hip , hello , him 
            ตัว  I  อ่านว่า  ไอ  ธรรมดา  แต่อ้าปากกว้าง ๆ หน่อย  ปล่อยลมออกมาจากคอหน่อย  แค่นี้ก็ชัดแล้วว่า I   ตัว I นี้ออกเสียง ไอหรือ  อิเช่น islands  (อ่านว่า ไอ-ลึ่น  ไม่ใช่  ไอ๊ส์-แลนด์)  idea , ivory , inside , impossible , itch
            ตัว  J ก็คือ    แต่พูดแบบค่อย ๆ ยื่นปากจีบปากเค้นเสียงออกมาเหมือนเวลาเราเปรี้ยวปาก  คือกระแดะกว่าปกติหน่อยแล้วจะดี  ลองออกเสียงคำเหล่านี้ดูสิคะ  แล้วนึกถึงอะไรเปรี้ยว ๆ ด้วย  joy , james , june , jeans , jelly
            ตัว  K  คือตัว   (ขอประทานโทษ)  ขากเสลด  วิธีเปล่งเสียงให้ค่อย ๆ พ่นลมผ่านลำคอให้ขึ้นไปกระทบเพดานปากเยื้องมาทางด้านหลังของเพดาน  แล้วเปล่งเสียง โปรดสังเกตว่าต้องพ่นลมออกมาก่อนเสียง นะคะ ลองพูด  kite , kate , kid , key , kind
            ตัว  L นี้เป็นตัว เสียงลม  ตัวปัญหา  เพราะคนไทยเข้าใจว่านี่คือเสียง   แต่จริง ๆ แล้วมันไม่เหมือนกันซะทีเดียว  ลองพูด   ของไทยดูนะคะ ลิ้นจะอยู่ที่เพดานข้างหลังฟัน  แต่จะไม่โดนฟัน  วิธีเปล่งเสียง  ต้องฉีกยิ้มไว้เสมอ  มิฉะนั้นเสียงจะไม่ออก  คือยิ้มสู้ก่อนพูดว่างั้นเถอะ  แล้วเอาปลายลิ้นแตะด้านหลังฟันหน้าบริเวณโคนฟันและเหงือก  แล้วดีดลิ้นลงก่อนออกเสียงสระ  ถ้าเอาลิ้นแตะค้างไว้  เสียงจะไม่ออกนะคะ  เช่น  love  (เล่อะ-เอิฟ)  long  (เล่อะ-ออง)  ถ้าตัว  L เป็นตัวลงท้ายในคำตรงนี้ขอทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า   L ไม่ใช่    เพราะฉะนั้นไม่ใช่ตัวสะกดในแม่กน  ตัว  L คือตัวปิดเสียงเท่านั้น  ลองเรียกชื่อตัว  L  ดูสิคะ  เราต้องเปล่งเสียง แอ…”  ลากยาวจนซะใจ  อยากจะจบเมื่อไหร่ให้ฉีกยิ้มกระดกลิ้นแตะโคนฟันหน้าบนแล้วดีดกลับ  (แต่ยังยิ้มค้างไว้นะจ๊ะ)  ก็จะได้  L ที่ถูกต้อง ระวัง  ถ้าออกเสียงเป็นแอน  หรือ  แอว  ไม่ถูกนะคะ
            ตัว  M นี่ก็เป็นตัวเสียงลมอีกตัวหนึ่งที่ไม่เหมือน  ของไทย  ตัวนี้เราต้องบีบริมฝีปากล่างเข้าหากัน แล้วเปล่งเสียง   ให้ระเบิดออกมาเช่น  man , more , many , meet , main , Monday   ถ้าเป็นตัวสะกดก็ให้ระเบิดลมออกมาท้ายคำด้วยทุกครั้งเช่น  ham  (แฮม-หมึ)  home (โฮม-หมึ) arm  (อาร์ม-หมึ)
            ตัว   N  เป็นเสียงลมอีกตัวหนึ่ง  เวลาออกเสียงจะใช้เทคนิคแสยะยิ้ม  หรือยื่นขากรรไกรล่างออกมาเล็กน้อย  ให้สังเกตว่าคอด้านหน้าจะตึง ๆ ลักษณะเหมือน เถียงคอเป็นเอ็น  นั่นแหละ  ลองออกเสียง  no , not , never   หรือถ้าเป็นคำลงท้ายก็ให้แสยะยิ้มตอนจบเช่น   non , coin , fun
            ตัว   O นี่ต้องอาศัยความกระแดะนิดหน่อยจะออกเสียงได้เพราะมาก  ให้ออกเสียง โออ้าปากกว้าง ๆ และเผยอเกร็งริมฝีปากบนล่างไว้ให้ดี  แล้วค่อย ๆ ทำปาก ให้แคบลง  แต่ยังเผยอค้างไว้เสมอ  ถ้านึกไม่ออก  ให้ดูพวกดารากะเทยตามละครน้ำเน่านั่นแหละ  ชัดเลย  ลองออกเสียง  over , oil (โอ-อิล), on , of
            ตัว  P  ก็ใช้วิธีบีบปากบนล่างเข้าหากัน  แต่คราวนี้ให้เม้มด้วย  เหมือนเวลาที่ผู้หญิงทาลิปสติกแล้วต้องเม้มปากเพื่อเกลี่ยสีให้เท่ากันนั่นแหละ  แล้วก็พ่นลม   ออกมาลองทำดู  แล้วให้ยกมือให้ห่างปากสักหนึ่งฟุต  ถ้าทำถูกจะต้องรู้สึกถึงลมที่พ่นออกมาปะทะฝ่ามือ เช่น  pepper , papa , peter ,paul , pan , pot
            ตัว   Q  อ่านว่า คิยู  ตัวนี้ไม่ใช่ คว  ควบกล้ำแบบภาษาไทย  แต่เป็นตัว   โดด ๆ  เช่น  queue   อ่านว่า  คิยูหรือ   และ    พูดแยกกัน เช่น  queen (คะ-วีน)  quota (คะ-โว-ท่า  ไม่ใช่  โคต้า หรือโควต้า)  quality (คะ-วอล-ลิ-ที่)
            ตัว  R  ตัวนี้เป็นปัญหาของคนไทย  เพราะความเข้าใจผิดกันมาแต่สมัยก่อนที่คุณครูสอนว่า  ตัว R  เทียบเท่ากับ   ครูเคทจะเทียบให้ฟังนะคะว่ามันไม่เหมือนกันอย่างไร    เรือของไทย  เวลาเปล่งเสียง  เราต้องกระดกลิ้นขึ้นแตะเพดานปากเกร็งไว้เล็กน้อย  เมื่อพ่นลมผ่านระหว่างลิ้นกับเพดาน  ลิ้นจะมีอาการพลิ้วเล่นลมเล็กน้อย  แต่การเปล่งเสียง  R ไม่ได้มีการใช้ลิ้นช่วยในการเปล่งเสียงแต่อย่างใด คือวางลิ้นไว้ในที่ปกติของมันนั่นแหละ  อย่าเอามันมายุ่งให้วุ่นวาย  แต่ให้ห่อปากแบบยื่นออกมาด้านหน้าเหมือนทำปากหมูนั่นแหละ  แล้วเผยอริมฝีปากบนล่างเกร็งไว้  เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
            อย่าลืมว่าตัว  R นี่เป็นเสียงลม  ไม่ใช่เสียงจริง  เวลาออกเสียงพยัญชนะต้น  ให้ยื่นปากเผยอริมฝีปากเตรียมไว้เหมือนจะพูดว่า อู  แล้วเปล่งเสียงสระตัวสะกดตามมา  เช่น red (อู-เรด  แต่ไม่ต้องพูด อู  ออกมาจริง ๆ หรอก)  read (อู-รีด)  real  (อู-รี-อัล)  ถ้าเป็นตัวสะกดให้พูดพยัญชนะต้นและสระให้สะใจ  แล้วจึงจบคำด้วยท่าปากหมูค้างไว้  ก็จะได้เสียง  R ตามที่ต้องการ  เช่น  dear  (เดีย ..(ปากหมู)  air  (แอ  (ปากหมู))  far  (เฟอะ-อา  (ปากหมู))
            ตัว  S  คือตัวเสียงลมอีกตัว  เวลาออกเสียงให้ฉีกยิ้มแล้วพ่นลมผ่านไรฟัน  ไม่ต้องเอาลิ้นออกมานะคะ  คนบางคนพูด  ส ไม่ชัด  เพราะเอาลิ้นออกมาแตะฟันหน้าด้านในด้วยซึ่งเป็นการออกเสียงที่ผิดทั้งภาษาไทยและอังกฤษ  ลมที่ออกมาต้องยาวนานกว่าภาษาไทยสัก 2-3  วินาที   S ไม่ใช่  ส แต่จงปล่อยให้เสียงเกิดเองตามธรรมชาติจากการพ่นลมลองออกเสียง  sand  (ซซซซซ  แอ-เนอะ-ดึ)  stick   (ซซซซ  ทิค-คึ)    โปรดสังเกตุว่าให้ออกเสียงลม  ซซซซ  เท่านั้น  ไม่ต้องออกเสียง  สะเหมือนสบาย  สบู่  เคล็ดลับยิ้มเข้าไว้  เสียงจะชัด
            เวลาออกเสียง  S  เป็นตัวสะกดนี่ก็เหมือนกัน  เมื่อ S  ไม่ใช่    เพราะฉะนั้นไม่ใช่ตัวสะกดในแม่กด  ไม่ต้องพยายามช่วยสะกดให้เขา  เพียงแต่ฉีกยิ้มพ่นลมออกมาเมื่อจบคำเท่านั้นก็พอ  เช่น  goes  อ่านว่า   โก ซซซซซ …..  ไม่ใช่  โกซ.  อย่างที่คนไทยชอบพูด  ลองหัดออกเสียง  kiss , peas ,as
            ตัว  T เทคนิคเหมือน  D  คือเอาลิ้นดดันเพดานเหมือนลูกอมติดเพดาน  แล้วเอาลิ้นดันออกแรงๆ  แล้วเปล่งเสียงเถอะ  เช่น  Tom , tear , toy , top  ถ้าเป็นตัวสะกดก็ให้ออกเสียงเถอะชัดๆหลังคำ  ลองฝึก  tent , hit , cut , not
            ตัว   U  ออกเสียงอุ  อะ  โดยออกเสียงในลำคอ  เช่น ultra (อุลทร้า  หรืออัลทร้า  ก็ได้)    หรือบางครั้งก็ออกเสียงยู  เช่น under , umbrella, หรือบางครั้งก็ออกเสียงยู  เช่น universal, unilateral, unit
            ตัว  V ออกเสียง  แต่ให้เอาฟันบนจิกลงที่ริมฝีปากล่างด้านในส่วนที่ไม่ทาลิปสติก  แล้วพ่นลมผ่านไรฟันและริมฝีปาก  คือออกเสียงและพยายามพ่นลมผ่านไรฟันพร้อมๆกันระวังอย่าให้ออกเป็นเสียงฟะ  ลองออกเสียง  van, vary, vegetable   (เว็จ-ทะ-บึล  ไม่ใช่เว็ด-เจ็ด-เท-เบิ้ล)แต่ถ้าเป็นตัวยสะกดให้สะกดให้ออกเสียง  เช่น leave (ลีฟ) , give, glove
            ตัว   W  อ่านว่า  ดับบึลยู  ไม่ใช่  ดับบลิว  นะเจ้าคะ  ตัวนี้ออกเสียงเหมือน ว แหวน  ของไทยเลย  ไม่ต้องกระแดะบางคนเวลาพูด   W  กระแดะไปนิด  เลยเพี้ยนไปเลย  เช่น  จะเรียกพี่วิลลี่  แมคอินทอช  เลยกลายเป็น  villy ฟังแล้วคันหูคะ  เทคนิคเล็กน้อยที่จะทำให้ชัดขึ้นคือ  ยื่นปากงุ้มลงเล็กๆก็ใช้ได้แล้ว  เช่น   Willy, will, wonder ถ้าเป็นตัวสะกดก็ยื่นปากเข้าไว้  เช่น  low, few, wow
            ตัว X  อ่านว่า  เอ็กซ์  ถ้าเป็นพยัญชนะต้น  ออกเสียงคล้าย S  แต่เพิ่มแรงสั่นสะเทือนในเสียงให้มากขึ้น  เช่น  Xerox, xylophone ถ้าออกเป็นตัวสะกดให้ออกเสียงตัวสะกดในแม่กก  แล้วจึงตามด้วย  ซซซ….เช่น  box , fox, fax
            ตัว   Y ใช้เทคนิคแสยะยิ้ม  พยายามยื่นขากรรไกรล่างออกมาสบหน้าฟันบน  เช่น   yes, yellow, yeild  ถ้าเป็นตัวลงท้ายออกเสียงเป็นตัวสระอิหรือสระอี  เช่น jelly, really, pretty
            ตัวสุดท้าย(ซะที)  คือตัว  Z ตัวนี้ตั้งท่าเหมือนตัว S แต่ให้กัดฟันแรงกว่าเล็กน้อย  แล้วพ่นลมผ่านไรฟันให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมากๆ  จนรู้สึกคัน ๆ ที่ฟันนั่นแหละใช้ได้เลย  ลองดู  zebra, zoo, buzz